ในปัจจุบันนั้นเริ่มนิยมปลูกต้นไม้ในคอนโด ในห้องและในบ้านมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ในร้านค้าหรือในคาเฟก็มีต้นไม้หลายชนิด ส่วนต้นไม้อีกประเภทที่กำลังเป็นที่นิยมนำมาปลูกกันก็คือไม้มงคลต่างๆ การปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเข้าใจการเลือกใช้ต้นไม้ให้เหมาะสม ถึงแม้ว่าจะปลูกต้นไม้เพราะเหตุอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่คนปลูกต้นไม้จะต้องทำเหมือนกัน นั่นก็คือการหมั่น ดูแลต้นไม้ และบำรุงต้นไม้ของเราให้แข็งแรง เพื่อยืดอายุต้นไม้ให้อยู่กับเราไปนานๆ และเพื่อบำรุงให้ต้นไม้ของเรายังแข็งแรงไม่เป็นโรค ยังคงใบเขียวและมีลำต้นที่สดใสอยู่เสมอ นั่นจึงจะถือว่าเป็นเรื่องสำเร็จของคนปลูกต้นไม้
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 1. ทำความรู้จักกับพันธุ์ไม้ที่คุณเลือกปลูก
แม้ว่าคุณจะ ดูแลต้นไม้ เอาใจใส่อย่างดีเพียงใด ต้นไม้ของคุณก็ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติหากคุณยังไม่เข้าใจถึงความต้องการพิเศษของพันธุ์ไม้นั้นๆ ไม่ว่าคุณจะเลือกปลูกไม้ประดับในบ้านหรือปลูกผักและดอกไม้ในสวนก็ตาม จำไว้ว่าต้นไม้แต่ละสายพันธุ์ต่างเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ซึ่งบางสายพันธุ์อาจจำเป็นต้องปลูกในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมเป็นพิเศษหรือสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในบางภูมิภาคเท่านั้น ลองดูว่าพันธุ์ไม้ที่คุณเลือกปลูกสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในภูมิภาคใด อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถปลูกต้นไม้ที่ไม่ใช่สายพันธุ์เฉพาะในท้องถิ่นของคุณได้ เพียงแต่ว่าต้นไม้ของคุณจะมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นหากสภาพอากาศ อุณหภูมิ และสภาพดินในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ตรงกับความต้องการของพันธุ์ไม้ชนิดนั้น
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 2. ไม้ดอกส่วนใหญ่ปลูกในห้องไม่ได้
ความจริงข้อแรกที่ควรทราบคือ ต้นไม้ที่เอามาปลูกในที่ร่มอย่างในห้อง โดยเฉพาะในห้องแอร์ ยากมากที่จะสุขภาพดีและงดงามเท่าตอนปลูกแบบโดนแดดโดนลมด้านนอก ดังนั้นการที่เราซื้อต้นไม้ซึ่งโตมาในเรือนเพาะชำมาปลูกในห้อง มันย่อมไม่มีทางงามเท่าตอนอยู่ที่ร้าน ถ้าปลูกแล้วความสดชื่นของมันลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงความเขียว ไม่ทิ้งใบ แตกใบใหม่ก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเริ่มโรยราแล้วไร้ซึ่งการเจริญเติบโต ก็ได้เวลาที่เราต้องเข้าไปแก้ไข ไม้ดอกเกือบทุกชนิดต้องการแสงมาก ดังนั้นถ้าเอามาปลูกในห้องมันก็อาจจะไม่ออกดอก กลายร่างเป็นไม้ใบ หรือไม่ก็อาจจะตายได้ แต่ไม้ใบส่วนใหญ่อยู่ในห้องได้ แต่ก็ต้องเป็นจุดที่ไม่อยู่ห่างจากแสงธรรมชาติมากนัก ถ้าปล่อยมันไว้กับความสว่างจากหลอดไฟอย่างเดียวก็อาจจะไม่รอด (ยกเว้นเป็นไฟสำหรับปลูกต้นไม้)
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 3. ให้เวลาต้นไม้ปรับตัว
ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดและเติบโตมากับแสงแบบหนึ่ง (ส่วนใหญ่โตมาในโรงเพาะชำซึ่งได้รับแสงค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้แรงขนาดแสงกลางแจ้ง) เมื่อเราเอามันเข้ามาในบ้าน เราก็ควรวางให้โดนแสงในจุดที่ไม่หักดิบจนเกินไป ค่อยๆให้ต้นไม้ได้ปรับตัว โดยเฉพาะการเอาไปโดนแดดเต็มๆตามระเบียงหรือดาดฟ้า ก็อาจจะช็อกแดด ใบไหม้ได้ อย่างเฟิร์น เราเชื่อกันว่าต้องอยู่ในที่ร่ม แต่เฟิร์นอยู่กลางแดดได้ เพียงแต่ต้องรอให้เขาชินแล้วแตกใบใหม่ขึ้นมารับแดดกลางแจ้ง ส่วนต้นไม้ที่โดนแดดน้อยลงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว มักจะทิ้งใบแล้วไม่ยอมแตกใบใหม่ แต่ถ้าแตกใบใหม่เมื่อไหร่ก็แปลว่ามันปรับตัวกับสภาพนั้นได้แล้ว
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 4. เติมอาหารให้ต้นไม้
ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านมาระยะเวลาหนึ่งมักจะไม่สวยสดใสเท่าเดิม เนื่องจากธาตุอาหารในดินถูกใช้ไป วัสดุปลูกบางส่วนก็ย่อยสลายทำให้ดินในกระถางยุบตัว ดังนั้นจึงควรสังเกตว่าหากวัสดุปลูกเริ่มพร่องลงให้ เติมวัสดุปลูกใหม่ๆ และใส่ปุ๋ยคอกเก่าลงไปเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้พืช รวมทั้งควรใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมทั้งทางดินและทางใบ อาจจะใช้ปุ๋ยละลายช้า ออสโมโค้ท สูตร13-13-13จาก โซตัส ใส่3เดือนครั้ง คุณสมบัติของปุ๋ยที่ค่อยๆปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาทีละน้อยอย่างช้าๆ ทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารสม่ำเสมอ จึงไม่เป็นอันตรายต่อพืช เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้บ่อยๆ
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 5. ปลูกต้นไม้ในกระถางที่มีขนาดใหญ่พอ
ควรแน่ใจว่าต้นไม้มีพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต เพราะการปล่อยให้รากของต้นไม้พันกันจนยุ่งเหยิงในกระถางอาจส่งผลให้ต้นไม้ของคุณตายได้ในที่สุด หรือหากคุณต้องการปลูกต้นไม้บนพื้นดินโดยตรง ให้คุณเว้นระยะห่างระหว่างต้นไม้แต่ละต้นไว้พอสมควร หากคุณต้องการปลูกต้นไม้ไว้ในกระถาง คุณควรตรวจสอบดูว่ารากของต้นไม้เริ่มพันกันหรือไม่อย่างน้อยปีละครั้ง หากพบว่ารากพันกันจนยุ่งเหยิงแล้ว ให้คุณขุดต้นไม้ขึ้นมาและนำไปปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นไม้ของคุณ หากไม่ต้องการย้ายต้นไม้ไปปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น คุณสามารถใช้วิธีตัดเล็มรากให้สั้นลงก่อนนำลงกระถางดังเดิม
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 6. จับสัญญาณให้ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม
ถ้าหมั่นสังเกตต้นไม้สักหน่อย เราอาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ ถ้าเราเห็นอาการบางอย่างแล้วปล่อยทิ้งไว้ ก็อาจจะนำมาซึ่งความป่วยไข้ และล้มตายในที่สุด เอาเป็นว่าถ้าใบเริ่มมีอาการผิดปกติ เราก็ควรต้องตรวจโรคพืชแบบง่าย ถ้าใบสลด ต้องเริ่มจากสังเกตสภาพดินว่าดินแห้งหรือแฉะไป ถ้าดินแห้งก็ลองรดน้ำแล้วรอดูว่าจะฟื้นไหม ถ้าดินแฉะก็เป็นได้ว่ารดน้ำมากไปจนทำให้รากเน่า ซึ่งถ้าโชคร้ายเจอเชื้อราลามจากรากเข้าต้นสู่ใบก็อาจตายได้ ดังนั้นต้นไม้ที่อยู่ในห้อง ถ้ารดน้ำมากไปก็อันตรายมาก
วิธีดูแลต้นไม้วิธีที่ 7. ถ้าอาการไม่ดี อย่าเพิ่งทิ้ง
การปฐมพยาบาลต้นไม้ที่เริ่มเน่าเพราะดินแฉะหรือโดนเชื้อราทำได้หลายวิธีง่ายๆคือ เอาต้นไม้ขึ้นมาจากดิน ตัดรากเสียทิ้ง ล้างรากให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วปลูกอีกครั้งด้วยวัสดุปลูกใหม่ ถ้าปลูกด้วยดิน รดน้ำเยอะไปดินอาจจะจับเป็นก้อน หรือละลายเป็นเลน ลองเปลี่ยนมาปลูกด้วยกาบมะพร้าวสับ พีทมอส หรือสแฟกนัมมอส ใช้แทนดินได้เลย วัสดุพวกนี้มีความพรุนสูงมาก จะช่วยให้รากเดินเร็ว
วิธี ดูแลต้นไม้ วิธีที่ 8. รดน้ำต้นไม้เท่าที่จำเป็น
รู้ไหมว่าสาเหตุหลักที่ต้นไม้ในบ้านตายเกิดจากการรดน้ำมากเกินไปมากกว่าขาดน้ำ ทำให้ต้นไม้เกิดอาการเน่าได้ง่าย ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านมีการคายน้ำน้อย และสูญเสียน้ำไม่เท่าต้นไม้ที่ปลูกด้านนอก ดังนั้นการรดน้ำต้นไม้ควรรดเมื่อวัสดุปลูกเริ่มแห้งประมาณสัปดาห์ละ1-2ครั้งก็เพียงพอ การรดน้ำต้นไม้ที่ผิดวิธี ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เป็นปัจจัยต้นๆที่ส่งผลให้ต้นไม้ตายได้ หลายๆ คนที่เพิ่งปลูกต้นไม้เป็นครั้งแรกมักรดน้ำต้นไม้มากเกินความจำเป็นเพราะเชื่อว่าการให้น้ำในปริมาณมากจะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแม้อาจจะถูกต้องอยู่บ้างสำหรับต้นไม้บางสายพันธุ์ แต่สำหรับต้นไม้โดยส่วนใหญ่แล้วอาจตายได้หากได้รับน้ำมากจนเกินไป
วิธี ดูแลต้นไม้ วิธีที่ 9. บำรุงต้นไม้ด้วยเปลือกไข่บดละเอียด
เปลือกไข่สามารถเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ให้กับดินได้เป็นอย่างดี จึงช่วยให้ผักสวนครัวต่างๆ อย่างต้นมะเขือเทศเจริญเติบโตได้ดีตลอดช่วงฤดูกาลผลิดอกออกผล เพียงนำเปลือกไข่มาบดให้ละเอียดและโรยลงไปในหลุมที่คุณขุดเตรียมไว้สำหรับนำต้นไม้ลงปลูกหรือใส่ลงไปในก้นกระถางที่ใช้สำหรับปลูกต้นไม้ในร่ม
วิธี ดูแลต้นไม้ วิธีที่ 10. ปกป้องผิวดินและเลือกดินปลูกต้นไม้
คลุมสแฟกนัมมอสส์หรือกาบมะพร้าวสับที่ผิวดินบางๆ ช่วยให้ต้นไม้ไม่สูญเสียความชื้นเร็วเกินไป อย่างที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยแต่ก็ควรหมั่นสเปรย์น้ำทั้งผิวดิน ใบและต้น ช่วยให้ต้นไม้ชุ่มชื้นและสดใส สมดินสำหรับปลูก ดินร่วน 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน เอาดินที่ผสมแล้ว ใส่ลงไปประมาณครึ่งกระถาง เอาต้นไม้วางลง แล้วเอาดินที่ผสมไว้ใส่ลงเกือบเต็มกระถาง กดดินให้แน่น เพื่อไม่ให้ต้นไม้ล้ม รดน้ำให้ชุ่ม แล้ววางในที่ร่ม หรือพักไว้ในเรือนต้นไม้จนกว่าต้นไม้จะทรงตัว แล้วจึงนำออกไปวางเป็นไม้ประดับได้
ช่วงที่สวยที่สุดของต้นไม้ คือวินาทีที่เรายื่นเงินให้คนขายแล้วหยิบมันออกมาจากร้าน นักปลูกต้นไม้มือใหม่หลายคนเชื่อแบบนี้ เพราะต้นไม้ที่วางขายในร้านมันช่างสวยเตะตา ใบเขียวแข็งแรง ออกดอกสะพรั่งล้นกระถางจนนึกว่าเป็นช่อดอกไม้ เราเห็นแล้วก็จินตนาการไปว่าเดี๋ยวความงามนี้จะมาเฉิดฉายอยู่ในบ้านเรา ก็เลยควักเงินคว้าตัวมันกลับมา แต่พอย้ายมาอยู่บ้านเรา มันก็เริ่มร่วงโรย ดอกหาย ใบเหี่ยวและค่อยๆขาดใจตายไปในที่สุด เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้กันมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นถ้าอยากซื้อต้นไม้กลับมาปลูกในบ้าน ในห้องหรือบนโต๊ะทำงาน แล้วให้มันยังคงความงามและชีวิตเอาไว้ ก็ลองใช้วิธีดูแลต้นไม้ที่เราแนะนำไปนะคะ